กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children's Fund หรือ UNICEF)
โดยมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติได้ก่อตั้งขึ้นในวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ในชั้นแรกเพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่เด็กที่ประสบภัยสงครามในทวีปยุโรปต่อมาเมื่อสภาพความเดือดร้อนในยุโรปคลี่คลายลงสมัชชาใหญ่ออกเสียงอีกครั้งหนึ่งในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ให้ต่ออายุกองทุนออกไปอีก ๓ ปี แต่ให้เปลี่ยนเป้าหมายไปสู่เด็กในประเทศที่กำลังพัฒนาและต่อมาใน ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติจึงได้เป็นหน่วยงานถาวรอยู่ในสหประชาชาติและนิยมเรียกกันโดยย่อว่า "ยูนิเซฟ" (UNICEF)
เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๒ สมัชชา ใหญ่สหประชาชาติได้มีมติยอมรับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเยาวชนเป็นเอกฉันท์โดยมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ว่าเยาวชนพึงมีสิทธิได้รับการดูแลเลี้ยงดูในด้านอาหารที่พักอาศัย การละเล่นเพื่อความบันเทิงและการพักผ่อนการแพทย์และการอนามัยและการศึกษาเพื่อให้เจริญเติบโตขึ้นโดยเสรีมีความสมบูรณ์พร้อมเพรียงทั้งทางด้านร่างกาย สมอง ศีลธรรมและจิตใจสมกับที่เกิดมาเป็นสมาชิกคนหนึ่ง
เนื่องจากยูนิเซฟเป็นหน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติประเทศสมาชิกทั้งหมดและหน่วยงานชำนัญพิเศษทั้งหลายจึงเป็นสมาชิก ของยูนิเซฟด้วยนอกจากนี้องค์การเอกชนและบุคคลทั่วไปก็ได้มีส่วนสนับสนุนงานของยูนิเซฟ ทั้งในด้านการเงินและวัสดุครุภัณฑ์ต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
โดยทั่ว ๆ ไปยูนิเซฟจะมีผู้ประสานงานโครงการอยู่ในประเทศสมาชิกเพื่อดำเนินการช่วยเหลือและสนับสนุนงานพัฒนาเยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอนามัยแม่และเด็กโภชนาการการส่งเสริมสุขภาพเด็กโครงการการเลี้ยงเด็กกลางวันและบริการสวัสดิการชุมชนรวมทั้งโครงการที่มีผลทางอ้อมต่อสุขภาพอนามัยของเด็ก เช่น โครงการวางแผนครอบครัวโครงการประปาหมู่บ้าน โครงการพัฒนาชนบทแบบผสมผสานเหล่านี้ เป็นต้น
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ยูนิเซฟได้รับรางวัลโนเบลในฐานะที่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยคณะกรรมการมอบรางวัลได้ประกาศว่า "ยูนิเซฟได้สร้างการเชื่อมโยง ระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและยากจนทำให้เราทั่วไปต่างรู้สึกว่าแท้ที่จริงแล้วโลกก็คือครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งถ้าเราต้องการจะอยู่กันโดยสันติสุขเราก็ต้องเริ่มด้วยการให้ความสนใจและเอาใจใส่แก่เด็กทุกคนในบ้านเป็นประการแรก"